อย่าเรียก “ป๋า”ถ้าไม่สนิท ป๋าช๊อบชอบ?หากเรียก “ป๋าขา” (มีคลิป)

        เกินไปมั้ย! แค่เรียก “ป๋า” ถึงขั้นต้องตบหน้าเด็กเสิร์ฟจนแก้มฟกช้ำ ยิ่งมีตำแหน่งใหญ่โตเป็นถึงสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เหตุไฉนจึงขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น สุดท้ายเจอปรับไป 1 หมื่นฐานทำร้ายร่างกาย แถมสืบไปสืบมาคำว่า “ป๋า” ที่บอกไม่สุภาพ แต่ดันทำตัวคล้าย “ป๋า” เมื่อพบภาพหลุดกับสาวๆ จนถูกตั้งคำถามตามมา…แล้วแบบนี้เรียก “ป๋า” ได้มั้ยท่าน

ฉุน! “อย่าเรียกป๋า” ไม่ชอบ
เพราะคำว่า “ป๋า” มันไม่สุภาพ จึงใช้หลังมือตบไปที่หน้าของบาร์เทนเดอร์ในร้านอาหารเพื่อเป็นการตักเตือน

คือเหตุผลที่สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) “อนุสร จิรพงศ์” ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ หลังเกิดข่าวฉาวใช้หลังมือตบไปที่บริเวณแก้มขวาของบาร์เทนเดอร์ร้านอาหารเกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ในห้างลา วิลล่า สาขาอารีย์ จนกระทั่งภาพจากวงจรปิดหลุดออกมา และผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางซื่อ โดยเจ้าตัวอ้างว่าแค่เป็นการตักเตือนอีกฝ่ายเท่านั้น เพราะไม่ชอบให้ใครมาเรียกตัวเองว่า “ป๋า”
ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ บาร์เทนเดอร์หนุ่มในฐานะผู้เสียหาย เล่าว่า ตนมีหน้าที่ผสมเครื่องดื่มให้แก่ลูกค้า และในวันนั้นได้ผสมเครื่องดื่มไปให้นายอนุสร ต่อมามีเพื่อนร่วมงานได้เดินมาบอกว่าผู้ใหญ่ท่านนี้เรียกให้ไปพบ จึงเดินเข้าไป และได้พูดคุยกัน แต่ด้วยความตื่นเต้นจึงได้เรียกสรรพนามแทนนายอนุสรว่า “ป๋า” ทั้งที่ก่อนหน้านี้จะใช้คำว่า “คุณ” หลังจากนั้นก็ถูกอีกฝ่ายใช้ความรุนแรงตามที่ปรากฏในคลิป

ภายหลังจากเกิดเรื่อง นอกจากความรู้สึกกลัว และน้อยใจแล้ว ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมว่าทำผิดอะไร จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ติดใจเอาความ และเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะขอโทษหากวันนั้นใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม

ตบหยอกๆ แค่ล้อเล่น

ด้าน “สปท.มือตบ” ยอมรับผิด พร้อมกับขอโทษสังคม และบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ก่อนจะชี้แจงว่าไม่ได้ตั้งใจ เคยบอกอีกฝ่ายไม่ให้เรียก “ป๋า” เพราะมันเป็นคำที่ไม่สุภาพ ส่วนการกระทำที่เกิดขึ้นวันนั้นเป็นแค่การหยอกล้อ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกน้อยใจและเสียใจจนเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

อย่างไรก็ดี ถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียน เพราะด้วยหน้าที่การงานทำให้ต้องระวังเป็นพิเศษ และยังทำให้สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย ดังนั้นจึงขอรับผิดชอบ และเยียวยาผู้เสียหายที่ต้องทำให้หยุดงานและเสียรายได้อีกด้วย

ในส่วนของคดีความนั้น เนื่องจากเหตุการณ์นี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยหลักฐานทางการแพทย์ระบุว่าผู้เสียหายมีรอยฟกช้ำ บวม ประมาณ 2 ซม. จำนวน 3 แผล บริเวณแก้มขวาใช้เวลาในการรักษา 3 วัน พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาให้แจ้งข้อกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนลงความเห็นให้มีการปรับสูงสุดในวงเงิน 10,000 บาท และส่งสำนวนทั้งหมดให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป

ส่วน สปท.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่นั้น รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คนที่หนึ่ง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สปท. (วิป สปท.) ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ต้องรอการพิจารณาของ วิป สปท. ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ซึ่งมีคณะกรรมการจริยธรรม สปท.ในการตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิก สปท.อยู่แล้ว และสังคมไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนี้

แบบนี้เรียก “ป๋า” ได้ไหม

แม้ฝ่ายผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความ ส่วนอีกฝ่ายก็รับโทษปรับกันไป แต่เรื่องราวความอื้อฉาวยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อพบภาพ “สปท.มือตบ” ถ่ายรูปกับสาวสวยแบบไม่ซ้ำหน้า ซึ่งไม่ทราบว่าพวกเธอเป็นใคร มาจากไหน และมีความสัมพันธ์กันอย่างไร โดยภาพดังกล่าวได้มาจากชาวเน็ต สอบจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนี้ ซึ่งปัจจุบันได้ตั้งค่าเป็นไพรเวต หรือตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไปแล้ว

เมื่อภาพหลุดกับสาวๆ ออกมาแบบนี้ ผู้ใช้สื่อโซเชียลฯ ก็ย้อนไปถึงเหตุผลที่เจ้าตัวไม่ยอมให้ใครมาเรียก “ป๋า” ว่าเป็นเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่า

สำหรับนายอนุสร จิรพงศ์ เป็นลูกชายคนโตของ พล.อ.เอื้อม กับ คุณหญิง นงนุช จิรพงศ์ เป็น “หลานตา” ของจอมพล ถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. มาก่อน

ส่วนคำว่า “ป๋า” แม้หลายคนจะภูมิใจเมื่อถูกเรียกว่า “ป๋า” เพราะดูภูมิฐาน ดูมีเงิน ดูมั่นคง นอกจากนั้นยังแสดงถึงความใจดี อบอุ่น และน่ากอด แต่อีกด้านกลับมองว่าเป็นคำเรียกที่ส่อไปทาง “หื่นกาม” เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมที่แสดงออกถึงเรื่องลามกอนาจาร หรือไม่น่าไว้วางใจเท่าที่ควร

(เครดิต “MGR Online Live”)