กรมชลเดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง เผยแผน 3 ปีใช้งบกว่า 31,000 ล้านบาท ก่อสร้าง 362 โครงการ

0
1130

นายประพิศ จันทร์มา ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ให้ความสำคัญของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางมากขึ้น เนื่องจากสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว มีผลกระทบไม่มากนัก และใช้งบประมาณก่อสร้างไม่สูงมาก โดยในงบประมาณปี 2558-2560 มีแผนที่จะดำเนินการทั้งหมด 362 โครงการ แบ่งเป็น โครงการจัดการน้ำชลประทาน 21 โครงการ โครงการจัดการแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 204 โครงการ และ โครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ 137 โครงการ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 31,435.82 ล้านบาท เมื่อแล้วเสร็จจะมีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ มากกว่า 1.47 ล้านไร่ และสามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น 877.9 ล้านลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ยังจะช่วยสร้างความมั่นคงในเรื่องน้ำทั้งทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และพาณิชยกรรม ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมทั้งยังจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝนอีกด้วย

สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางในช่วงที่ผ่านมา จะเน้นการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำ และประตูระบายน้ำไว้ค่อนข้างมาก แต่ยังขาดระบบส่งน้ำ ดังนั้นในปี 2559 กรมชลประทานจะให้ความสำคัญกับการสร้างระบบส่งน้ำมากขึ้น เพื่อให้น้ำกระจายเข้าสู่พื้นที่การเกษตร ตลอดจนการอุปโภค-บริโภคให้กับชาวบ้านได้อย่างทั่วถึง ซึ่งมีโครงการระบบส่งน้ำสำคัญๆ เช่น ระบบส่งน้ำคลองโพธิ์ ระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ จ.นครสวรรค์ ระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำห้วยผาก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระบบส่งน้ำโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเล็ง และ ระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น จ.เพชรบูรณ์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การเพิ่มพื้นที่ชลประทานยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญโดยแต่ละปีจะต้องเปิดพื้นที่ชลประทานใหม่ให้ได้ไม่น้อยกว่า 30,000-50,000 ไร่

“ปริมาณน้ำท่าของประเทศไทยแต่ละปีมีค่อนข้างมาก เพียงพอความต้องการใช้น้ำของประเทศ แต่ยังขาดแหล่งกักเก็บน้ำ ทำให้ปริมาณน้ำท่าที่มีมากในฤดูฝนไหลทิ้งลงทะเลเป็นส่วนใหญ่ การสร้างแหล่งกักเก็บน้ำใหม่ๆ ไม่สมดุลกับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น และต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างยาวนาน อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานพยายามที่จะเร่งดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางที่จะเสร็จภายในปีนี้ มีโครงการที่สำคัญๆ เช่น อ่างเก็บน้ำพระสะทึง จ.สระแก้ว สามารถกักเก็บน้ำได้ 60 ล้านลบ.ม. อ่างเก็บน้ำน้ำเลย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เลย สามารถกักเก็บน้ำได้ 37.5 ล้านลบ.ม. เป็นต้น ส่วนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางที่สำคัญๆ จะเริ่มดำเนินการในปีนี้ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยศอก จ.เลย กักเก็บน้ำได้ 30 ล้านลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำห้วยท่าพล จ.เพชรบูรณ์ กักเก็บน้ำได้ 13 ล้านลบ.ม.” ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทานกล่าว

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.