เริ่มภาวะบีบสื่อ”ม.44คสช.”ปิด “ทีวี-วิทยุ”ส่งสัญญาณ ทุกรัฐบาล-ทุกคณะ ถ้าลงมาถึงสื่อ คืออะไร?

0
1071

บิ๊กตู่”งัด”ม.44คสช.”ให้อำนาจ”กสทช.-กสท.”ปิด‘ทีวี-วิทยุ’ไม่ผิดกม.สกัดเนื้อหาล้มล้างปกครองกระทบมั่นคง-ศีลธรรมอันดี‘เทพชัย’จี้ทบทวนจ้องคุมสื่อ

“เชียงใหม่”พบจดหมายกว่า6พันฉบับ ระบุข้อความบิดเบือน

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 41/2559 เรื่องการกํากับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ มีเนื้อหาสรุปว่า ตามที่ คสช.ออกประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 เรื่อง การให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคสช.และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคสช.ฉบับที่ 103/2557 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 เพื่อกําหนดห้ามการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารบางประเภทนั้น โดยที่ข้อมูลข่าวสารตามประกาศดังกล่าวมีลักษณะเป็นข้อมูลข่าวสารต้องห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ออกอากาศตามมาตรา37 แห่งพรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551

ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดปัญหารับรู้และความเข้าใจในการกํากับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของผู้ประกอบการไปสู่ประชาชนทั้งในส่วนประเภทข้อมูลข่าวสารที่ต้องห้าม และมาตรการที่จะนํามาใช้กํากับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ จึงจําเป็นต้องกําหนดให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น หัวหน้า คสช.อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ออกคำสั่งให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญาและวินัย จากการกระทำการควบคุมดูแลมิให้เสนอข้อมูลข่าวสารหรือการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าวไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่

“นายกสื่อฯ”จี้ทบทวนกคุม”สื่อฯ”

ด้าน นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ณที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา44 ให้อำนาจ กสทช.ในการควบคุม รวมถึงปิดสถานีวิทยุและโทรทัศน์ได้ว่า เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในบรรยากาศก่อนลงมติร่างรัฐธรรมนูญ เป็นช่วงที่ทุกคนโดยเฉพาะสื่อควรมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นเพื่อให้สังคมมีข้อมูลรอบด้านในการตัดสินใจ ฉะนั้นการมีคำสั่งนี้ออกมามันทำให้สื่อมีความรู้สึกว่า ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อยากให้ คสช.ทบทวนเรื่องนี้ เพราะปกติ กสทช.ก็มีกระบวนการที่จะบริหารจัดการกับผู้รับใบอนุญาตอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่าปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยก็ควรมีกระบวนการแบบนั้นอยู่ เพราะในคำสั่งอ้างว่า เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว เมื่อคุณพูดว่า เป็นประชาธิปไตยอยู่ก็ต้องเคารพกฎกติกาที่อยู่ใต้กรอบประชาธิปไตย

“ผมไม่แน่ใจว่า คสช.หรือกสทช.มีข้อตกลงอะไรกันอยู่หรือเปล่า มันทำให้บทบาทของ กสทช.ที่เป็นองค์กรอิสระก็ถูกมองว่า ถูกแทรกแซงและยิ่งทำให้คนตั้งคำถามถึงร่างกฎหมาย กสทช.ที่ขณะนี้อยู่ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า จะทำให้มีความเป็นอิสระแค่ไหน” นายเทพชัย กล่าว

“เชียงใหม่”เปิดปฏิบัติการส่งจดหมายบิดเบือน

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตรวจพบจดหมายกว่า 2,000ฉบับ ที่มีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ โดยจ่าหน้าส่งถึงเจ้าของบ้านที่มีบ้านเลขที่อยู่ในพื้นที่อำเภอต่างๆของ จ.เชียงใหม่ แต่ไม่ระบุชื่อทั้งผู้ส่งและผู้รับ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 14กรกฎาคม มีรายงานจาก จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของที่ทำการไปรษณีย์เชียงใหม่ พบจดหมายลักษณะดังกล่าวอีกกว่า 4,000ฉบับ เป็นกระดาษเอกสารพิมพ์เนื้อบิดเบือนสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญที่จะจัดให้มีการลงประชามติ ติดแสตมป์ พร้อมจ่าหน้าระบุผู้รับเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ต่างๆ ในพื้นที่ต่างๆ แต่ไม่ระบุชื่อผู้ส่ง ซึ่งถูกส่งมาโดยการหย่อนตู้ไปรษณีย์สาธารณะ

นายบุญธรรม ประสงค์วรากิจ หัวหน้าไปรษณีย์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จดหมายที่เข้าข่ายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญมีทั้งสิ้น 6,023ฉบับ ตรวจสอบพบว่า จดหมายถูกนำส่งมาจากหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่ อ.สันทราย ,อ.สันกำแพง,อ.เมืองเชียงใหม่และอ.แม่ริม นอกจากนั้นพบว่า บางส่วนถูกส่งมาจากตู้ไปรษณีย์ในเขตดุสิต กรุงเทพฯ จึงนำจดหมายดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีแล้ว

‘มีชัย’วอนนักการเมืองหยุดโกหก

ด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ให้สัมภาษณ์วิงวอนฝ่ายการเมืองยุติการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อนักการเมืองอ้างทำเพื่อประชาชนก็หยุดโกหกเสียที ขอให้เริ่มเล่นการเมืองแบบการเมืองที่พัฒนา ทั้งนี้ ตนไม่หวังเอาผิดที่พบการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีพบจดหมายส่งเอกสารสรุปสาระร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ตรงข้อเท็จจริงที่ จ. เชียงใหม่ และ จ.ลำปาง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ กรธ. จะไม่ขอยุ่ง มุ่งหน้าชี้แจงสาระและข้อเท็จจริงในร่างรัฐธรรมนูญดีกว่า

“บิ๊กป้อม”ออกป้องปัด”คสช.”

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมป้อม
กล่าวถึงการตรวจพบเอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญว่า ตนทราบแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบอยู่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลและคสช.อาจเป็นผู้สร้างกระแสเองนั้น พล.อ.ประวิตร ตนยืนยันว่า รัฐบาลและคสช.ไม่ได้สร้างสถานการณ์หรือกระแสดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กับตำรวจกำลังดูแลอยู่

อ้าง”ทหาร”ไม่ทำแน่นอน-เสียเครดิต

ขณะที่ พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช.กล่าวถึงการตรวจพบการร่างรัฐธรรมนูญปลอมในพื้นที่ภาคเหนือว่า มีการแจกจ่ายที่ จ.เ
ชียงใหม่และจ.ลำปาง มีเจตนาไม่สุจริต อาจเป็นบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ส่งเอกสารที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่ง แต่ระบุชื่อผู้รับ โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่กำลังเร่งตรวจสอบ ตั้งแต่การซื้อแสตมป์และบุคคลที่ใช้ยานพาหนะไปส่งเอกสารที่ตู้ไปรษณีย์ รวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิด

ถูกถามกรณี มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทหารอาจเป็นผู้จัดฉากทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายที่ต้องการล้มร่างรัฐธรรมนูญ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทหารต้องทำ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ยิ่งจะเสียความไว้วางใจจากประชาชน สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดก็เสียหมด อีกทั้ง ทหารเป็นผู้รักษากฎหมาย เราจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายและตอนนี้อยู่ระหว่างการหาผู้กระทำผิด

‘เต้น’ออกมาเต้นสงสัย’จัดฉากสร้างละคร’เต้น

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เปิดเผยว่า จดหมายที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบทางภาคเหนือน่าสนใจว่า เนื้อหาทั้งหมดคืออะไร เพื่อความโปร่งใสขอเรียกร้องให้กกต.นำเอกสารร่างรัฐธรรมนูญชุดที่จัดส่งถึงประชาชนกับจดหมายดังกล่าวมาเปิดเผย การส่งจดหมายแบบจงใจให้ถูกจับได้ส่อว่า จะเป็นวิชามาร สังคมควรพิจารณาว่า ฝ่ายไหนชี้นำมาตลอดว่า มีขบวนการปลอมร่างและข่าวจับจดหมายเข้าทางใคร ถ้าอยากจับใครก็ลงมือตรงๆเลย ไปเสียเวลาจัดฉากสร้างละครพอคนดูรู้ทันมันน่าอาย

นักวิชาการถก’กกต.’ให้เปิดพื้นที่
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง นำโดย นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) เข้าพบ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกิจการงานเลือกตั้ง เพื่อหารือกรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติและการเพิ่มพื้นที่แสดงความเห็นการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดย นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะ
ออกเสียงประชามติ เนื้อหาของร่างมีความซับซ้อนจึงต้องอธิบายเพิ่มเติม แต่ช่วงกำลังจะทำมติการวิพากษ์วิจารณ์กลับถูกจำกัด ขณะที่ผู้เห็นต่างถูกจับกุม แต่กลุ่มที่โน้มน้าวให้รับร่าง ไม่มีการจับกุม กลุ่มที่รณรงค์ไม่รับร่างมีการดำเนินคดีแล้วถึง 113คดี โดย 94คดี เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า ผิดประกาศ คสช.ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายประชามติ

ยันทำผิดพรบ.ประชามติแค่19คดีด้าน นายสมชัย กล่าวว่า ชี้แจงกรณีกลุ่มอาจารย์ระบุว่า มีการดำเนินเกี่ยวกับการทำประชามติแล้ว 113คดีว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้นพบว่า 94คดี เกี่ยวกับความมั่นคง มีคดีเกี่ยวกับพรบ.ประชามติเพียง 19คดี จึงไม่ควรเหมารวมว่า ทั้ง 113คดีเป็นการทำผิดกฎหมายประชามติ เพราะเป็นเรื่องที่น่าเกลียด เนื่องจากถ้าทำผิดประกาศ คสช.เช่นห้ามชุมนุมเกิน 5คน ไม่ว่าจะเกิดก่อน หรือหลังมีกฎหมายประชามติก็เป็นการทำผิดอยู่แล้ว อยากขอให้ความเป็นธรรมกับ กกต.ด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้อยู่นอกเหนืออำนาจของ กกต.

‘กกต.-กรธ.’ถกทางออกกันสับสน

เวลา 14.00น.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.เป็นประธาน มีวาระพิจารณาเอกสาร คลิปวีดีโอ หรือเอกสารอื่นๆ ตลอดจนจดหมาย ใบปลิวที่เข้าข่ายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารจัดการเลือกตั้ง เป็นตัวแทน กกต.เข้าร่วมหารือเพื่อหาทางออกไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน

ร่างลงนสพ.ก่อนออกเสียง2สัปดาห์

หลังหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง นายสมชัย ให้สัมภาษณ์ว่า มีการหารือ 2แนวทาง คือ 1.แนวทางการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนจะได้ไม่ไปลงประชามติแบบว่างเปล่า โดยต้องสร้างบรรยากาศและเปิดโอกาสให้มีการถกเถียง ภายใต้กรอบกติกาและไม่ผิดกฎหมาย โดยจะจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ 2สัปดาห์ก่อนลงประชามติลงหนังสือพิมพ์ประจำวัน 3ฉบับ คาดว่าจะทำให้หนังสือพิมพ์ดังกล่าวมียอดขายกว่า 1ล้านเล่ม ถือเป็นช่องทางให้ประชาชนรับรู้เนื้อหาสาระแบบเต็มๆ นอกจากนี้ จะจัดรายการสาระร่างรัฐธรรมนูญเพื่อออกรายการทางโทรทัศน์ 10ครั้ง ครั้งละ 10 นาทีและจะเชิญทั้ง 2ฝ่ายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ยังเคลือบแคลง มาพูดคุยถกเถียงกัน

หากจม.มีเนื้อหาบิดเบือนจริง-ต้องเอาผิดคดีอาญาแน่

นายสมชัย กล่าวอีกว่า แนวทางที่2คือ การหารือเอกสารที่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญพบว่ามีความเห็นตรงกัน ที่มีเอกสารบิดเบือนและข้อความเป็นเท็จ คือกรณีพบจดหมายแจกจ่ายใน จ.ลำปางและจ.เชียงใหม่ กกต.และกรธ.เห็นตรงกันว่ามี 3ประการที่บิดเบือนคือ 1.เรื่อง 30บาทรักษาทุกโรค 2.สิทธิการเรียนฟรี 12ปีและ3.เบี้ยผู้สูงอายุ โดย กกต.จะแจ้งกกต.จังหวัดและตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีอาญา จากนี้ใครที่มีจดหมายในมือเมื่อทราบว่ามีความผิดก็ไม่ควรแจกจ่าย ส่วนเอกสาร 7เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำโดยขบวนการประชาธิปไตยใหม่พบว่า มีข้อความที่อาจเป็นเท็จ ไม่สามารถแจกจ่ายในที่สาธารณะได้ จึงขอความร่วมมืออย่าแจกจ่าย แต่การแจกเอกสารก่อนหน้านี้จะไม่เอาเรื่อง

มีการเผยแพร่ข้อความและภาพทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โดยใส่คำพูดพร้อมภาพบุคคล อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคฯ ข้อความที่ปรากฏในเชิงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือรัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขได้ยากมาก ด้าน นายองอาจ ชี้แจงว่า พรรคไม่ได้ทำภาพดังกล่าว เท่าที่ดูเป็นการพยายามตัดต่อคำให้สัมภาษณ์ในโอกาสต่างๆของสมาชิกพรรค ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ จึงอยากให้ กกต.ช่วยตรวจสอบ ที่สำคัญมีการติดโลโก้ของพรรคด้วย

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.