ประชาชนทาง”เหนือ” ร้อง”เครือข่ายยุติธรรม”ตรวจสอบการกระทำด้านธรรมชาติ โดยอาศัยอำนาจ”คสช.” แต่เลือกปฏิบัติกับระดับชาวบ้านสร้างความเดือดร้อน

0
1058

ด้วยทาง”เครือข่ายยุติธรรม” ได้รับเรื่องร้องเรียนหลายรายมีพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานธรรมชาคิ โดยได้อาศัยกระแสร์และอำนาจแห่ง “คสช” ที่เน้นหนักทางด้านป้องกันทรัพย์กรของชาติ  ฃึ่งเจ้าหน้าที่บางท่านในหน่วยงานด้านนี้ ก่อนหน้าที่จะเกิด “คสช.”ก็มีพฤติกรรมเกี่ยวกับความไม่โปร่งใส เกี่ยวกับแสวงหาผลประโยชน์กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับไม้ มีไม้ในครอบครอง อย่างถูกต้อง แต่เพื่อตัดความรำคาญจึงต้องอดทนจำยอมมาตลอด พอมาถึงยุค”คสช.”ก็อาศัยอำนาจนี้ออกทำการอย่างตามอำนาจหน้าที่ แต่สำหรับผู้ผิดกฎหมายกลับไม่ค่อยเกิดผลกระทบ แต่เกิดผลกระทบต่อ ชาวบ้าน ผู้ครอบครองอย่างถูกต้อง แต่ก็ต้องวุ่นวายต่อการเข้าไปรื้อค้น เกิดความไม่สงบสุข ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีต่อประชาชน  และขัดต่อจุดประสงค์ของ “คชส.” และยังอาศัยยืมมือหน่วยงานหลายหน่วยเข้ามาร่วมกันโดยที่หน่วยงานอื่นไม่รู้เท่าทันการอิงแอบอำนาจนี้เพื่อประสงค์ประโยชน์บางอย่าง

สื่อเองยังหลงกล เผยแพร่ออกสื่อเพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ของชาติจีงสนับสนุนการทำข่าวอย่างเต็มที่ ดูเหมือนมีผลงานการกระตามหน้าที่อย่างมาก แต่คือรายเล็ก ชาวบ้าน แต่นายทุน รายใหญ่ ผู้มีอิทธิพลจริง ยังไม่มีผลงานให้เห็น จะเห็นว่า ทางภาคเหนือยังมีธรรมชาติที่ถูกทำลายมากมาย การดูดทราย จนเสียหายต่อสภาพแม่น้ำ เกิดอุทกภัยภัยแล้ง นำป่าท่วมทลัก สิ่งสำคัญที่จะเร่งปราบปรามแก้ไขไม้เถื่อนกลับไม่ทำ มุ่งแต่ ผลงานโชว์ระดับชาวบ้าน และผู้มีไม้ในครอบครองเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เพื่อทำให้เห็นว่ามีการทำงานสนอง”คสช.”

และที่เด่นชัด มีเจ้าหน้าที่ ได้ตีผึ้งในป่า แล้วเอามาบรรจุไส่ขวด บังคับกับคนที่อญู่ในวงการค้าไม้ ในราคาที่สูง ฃึ่งต้องจำใจรับฃื้อทุกๆปี แต่ครั้นพอชาวบ้านเข้าไปตีผึ้งเช่นนี้บ้างกลับถูกจับดำเนินคดีเพราะผิดกฎหมาย กับผู้ค้าไม้รายย่อยก็เช่นกันต้องพบกับการตรวจสอบมากถ้าไม่ยิยยอมบางอย่างก็ต้องพบกับความยุ่งยากต่อการถูกตรวจสอบ แม้จะไม่มีอะไรผิดกฏหมาย แต่ขั้นตอนในการชี้แจงจะยุ่งยาก ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการค้าไม้รายย่อย มักจะไม่อยากให้เกิดความยุ่งยาก ต่อการประกอบอาชีพจึงต้องจำยอมตลอดมา และกับชาวบ้าน และผู้ที่มีความรักไม้ ก็แค่ฃื้อไม้สะสมเพราะนิสสัยรักไม้เท่านั้น กลับต้องถูกการกระทำที่ก่อให้เกิดความยุ่งยาก

ดังนั้น ขณะนี้ คำสั่ง”คสช.” สมควรหยิบยกหลักเกณฑ์ ขอบข่ายการให้ใช้อำนาจ ระหว่างนายทุน กับผู้ค้ารายเล็ก กับชาวบ้าน และผู้รักไม้และชอบสะสมไม้ เพราะการปฏิบัติการในขณะนี้ด้านนี้ถูกอ้างนำมาใช้กับผู้อยู่ระดับเล็กกับชาวบ้านเท่านั้น แต่กับระดับใหญ่ ยังไม่เห็นมีผลงานที่เด่นชัดเป็นรูปธรรม แต่มีระดับเล็กแต่ทำเป็นข่าวระดับใหญ่มีไม้ที่ถูกกฏหมายขนาดใหญ่มากมาย ที่ไม่น่าจะมีไม้เหล่านี้ถูกกฎหมายได้เลย ตามสถานที่ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ และผู้ค้าไม้รายใหญ่ๆ มีให้เห็นอย่างชัดเจน

ทาง”เครือข่ายยุติธรรม” ได้นำเรื่องร้องทุกข์ เข้าชี้แจงต่อ”หนังสือพิมพฺรายวัน”ข่าวประเทศไทย” เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายได้ชี้แจงต่อสาธารณะชนน และเพื่อเป็นสื่อกลางเให้ ทาง”คสช.” ทราบเพื่อทบทวนวิธีการตามจุดมุ่งหมายที่จะรักษาธรรมชาติของชาติให้ดำรงต่อไป โดยไม่ให้มามีผลกระทบต่อความสงบสุข การปรองดองคนในชาติต่อการกระทำที่ไม่เสมอภาค

หากการรวบรวมหลักฐานได้มากพอจะกระชากหน้ากาก พฤติกรรมของบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติเช่นนี้ และจะดีขึ้นถ้ามีการล้างบาง ทางภาคเหนือ

 

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.