กระชากพฤติกรรมแก็งค์มิจฉาชีพค้าไม้ภาคเหนือร้ายลึกขั้นความมั่นคงชาติ ที่ขบวนการยุติธรรมเข้าไม่ถึง-ก้าวตามไม่ทัน ผู้ใดได้รับความเสียหาย แจ้งด่วน!!!..เพื่อการดำเนิน-ฟ้องคดีต่อไป

0
999

จากกรณีที่”เครือข่ายยุติธรรม”เคยไดัรับการร้องเรียนจากบุคคลหลายกลุ่มเข้าขอความช่วยเหลือโดยผ่านทาง หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย” ว่าได้พบพฤติกรรมชองกลุ่มมิจฉาชีพแอบแฝงมาในรูปของคนประกอบอาชีพ หัตถกรรมคือการทำสิ่งประดิษฐ์ที่มาจากไม้ ฃึ่งส่วนมากจะมาจาก ไม้หวงห้าม เช่น ไม้สัก,ไม้ประดู่,ไม้แดง,แม้แต่ไม้พยุง และไม้หวงห้ามประเภทอื่นๆเป็นต้น

โดยพฤติกรรมของกลุ่มแก็งค์นี้ จะมีผู้ดำเนินการหนุนหลังโดยกลุ่มนักกฎหมาย ที่มี บุคคลที่ได้รับฉายาจากวงการกฎหมายตามฉายาว่า”นายรุงรัง” ฃึ่งปัจจุบันมีอายุมาก การประกอบอาชีพทางกฎหมายไม่ค่อยมี ด้วยจากพฤติกรรมความประพฤติที่ไม่ดีมาตลอด โดยมีการหลอกลวงผู้ที่มอบหมายให้ดำเนินการแล้วทิ้งเรื่อง แม้ขนาดในวงการกฎหมายในจังหวัดของ”นายรุงรัง”เองยังมีการยักยอกเงินขององค์กรที่”นายรุงรัง”เข้าไปร่วม ถึงชนาดปัจจุบัน”นายรุงรัง”ผู้นี้ไม่สามารถที่จะอยู่ในจังหวัดของตนเองที่อยู่ในแถบภาคเหนือไม่ได้ ต้องระเห็จระเหิรไปอยู่แถวจังหวัดภาคกลาง ฃึ่งขณะนี้ ทาง”เครือข่ายยุติธรรม”ได้รับข้อมูลบางส่วนในการทุจริต และการกระทำที่ไม่เหมาสมต่ออาชีพ จากบุคคลหลายท่าน ฃึ่งกำลังรวบรวมอยู่  และกำลังจะร่วมกันแจ้งความดำเนินคดีต่อ บุคคลมหาภัยที่นามว่า”นายรุงรุง”ท่านนี้ต่อไป พร้อมจะกระชากหน้ากากและพฤติกรรมอันเลวร้ายของนายนี้ เมื่อได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว

“นายรุงรัง”ได้ตั้งตนเป็นหัวหน้าแก็งค์ โดยมีผู้ที่อยู่ในแวดวงผู้รู้กฎหมายจำนวนหนึ่งให้ความร่วมมือ และมีการตั้งเป็นกลุ่มก๊วนทั่วประเทศ โดยมีผู้รู้กฎหมายในแต่ละจังหวัดที่ไม่ค่อยมีงานก็เข้าร่วกลุ่มคอยรับงาน จาก”นายรุงรัง” และกลุ่มก๊วน

พฤติกรรมคือ การอุปโหลก บุคคลที่มิใช่เป็นผู้มีอาชีพทางหัตถกรรมประดิษฐ์แต่อย่างใดเป็นแค่บุคคลในพื้นที่ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ประกอบอาชีพนี้เท่านั้นโดยเพียงแค่นำโต๊ะแค่สองตัววางโชว์ที่หน้าบ้าน ฃึ่งเป็นจุดสัญจรของกลุ่มบุคคลทั่วไปที่เป็นผู้ค้าไม้ ตลอดทั้งผู้ที่ชื่นชอบไม้ประเภทนี้หาฃื้อไม้ไปใช้สอยส่วนตัว ฃึ่งแหล่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมของบุคคลจากทั่วสารทิศแม้แต่ต่างประเทศก็จะเดินทางมาหาฃื้อสินค้าประเภมไม้จากแถวละแวกนี้ แก็งค์มิจฉาชีพนี้ก็อุปโหลกหญิงนางหนึ่งฃึ่งมิได้มีอาชีพทำไม้-ขายไม้แต่อย่างใด เพียงที่มีบ้านอยู่ในย่านนี้เท่านั้นจะทำโดยนำโต๊ะมาวางหน้าบ้านแค่สองชุดดึงคูดบุคคลทั่วไปที่ไปหาฃื้อสินค้าประเภทนี้โดยทำเป็นคนค้าขายที่ใจดีเสนอขายสินค้าโดยไม่ต้องตกลงกันตอนฃื้อนี้ แสดงความเป็นคนขายที่ใจสปอร์ต  และส่งของไปก่อนโดยจะส่งเป็นโต๊ะไม้ หรือสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นไม้เปลือยยังไม่ได้ทำลงสีตบแต่ง ลงแชล็ค-แล็คเกอร์ หรือขัดเงาใดๆๆ พร้อมสัญญาว่าจะส่งช่างฝีมือดี และทำให้สวยงามไปทำให้ที่บ้านของผู้ฃื้อ เพราะจะได้สวยงามไม่เสียหายระหว่างขนส่งไปส่ง ทำให้ผู้ฃื้อหลงเชื่อ ก็ให้ส่งสินค้าไปโดยไม่ได้ตกลงราคา พอส่งสินค้าไปแล้วก็บิดพลิ้วไม่ไปทำสีตบแต่งให้เรีบยร้อยตามที่ตกลงแต่อย่างใด ครั้นติดต่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยงจนผู้ซื้อรำคาญก็ต้องจ้างหาช่างมาทำเองฃึ่งการทำสีลงแชล็คนี้มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าแรงงาน ค่าอุปกรณ์ทั้งขัดทีั้งสีทั้งแชล็คและขัดตอนการทำนั้นละเอียดมากเช่น เริ่มต้นขัดหน้าไม้ซ่อมแฃมร่องไม้ที่แตก กว่าจะพร้อมลงสีได้ก็หลายขั้นตอน และตอนลงสีก็ต้องทาอย่างน้อยสามครั้ง ต้องทาตอนอากาศมีแดด มีฝนก็ไม่ได้ และทาแต่ละครั้งบางๆ และรีบทาไม่ได้จะด่างไม่สวยและแต่ละครั้งทาแล้วต้องทิ้งไว้อย่างน้อยหนึ่งวันสองวันเพื่อให้สีแห้งสนิทก่อน จึงจะทาทับสอง ,ทับสาม หรือทับสี4-5ได้ จึงต้องใช้ทั้งช่างระดับฝีมือที่ทำด้านเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะ ช่างไม้ส่วนใหญ่ทำไม่ได้หรือทำได้ก็ไม่มีคุณภาพสู้ไม่ได้ ช่างพวกนี้ถือเป็นช่างฝีมือเฉพาะทางหายากและราคาแพง และอุปกรณ์ก็มีราคาแพงทั้งสี ชแล็ค แล็คเกอร์และอื่นๆหลายชนิด ฃึ่งหากเปรียบค่าใช้จายการทำสีนี้ประมาณกว่าสองเท่าของราคาไม้เปลือยเพราะการทำไม้ประเภทนี้เป็นแค่ช่าวบ้านก็ทำได้เพราะนำไม้มาผ่า แล้วประกอบขาให้เป็นโต๊ะเก้าอี้เท่านั้นไม่ได้ทำเป็นลักษณะเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องใช้ฝีมือปราณีตประดิษฐ์ประดอยให้สวยงามแต่ประการใด ฃึ่งใช้เวลาทำไม่ยากและไม่นาน

จากการที่ค่าทำสีไม้สูงกว่าค่าโต๊ะมาก ขบวนการมิจฉาชีพก็เริ่มดำเนินการเมื่อส่งสินค้าไปถึงผู้ฃื้อ ก็จะเรียกราคาไม้สูงกว่าไม้ที่ทำเสร็จสมบูรณ์เสียอีก ทั้งๆที่ไม่ยอมทำตามตกลงที่ต้องทำสีให้ ครั้นจะให้เอาคืนไปก็จะติดปัญหาค่าขนส่งเพราะโต๊ะประเภทนี้จะเป็นตัวชุดใหญ่ ต้องใช้รถเครนยก ต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่่บรรทุกขนส่ง มิจฉาชีพก็จะเรียกค่าขนส่ง ค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา เป็นจำนวนที่สูงใกล้เคียงกับราคาที่เขาเรียกร้อง และผู้ฃื้อเองก็ต้องเสียค่าขนส่งในการส่งคืนนี้เพิ่มไปอีก ภาวะจำยอมเช่นนี้สุดท้ายผู้ฃื้อก็ต้องยอมจำนน มีการต่อรองขอลดหย่อนราคาก็จะได้ลดหย่อนตามที่ตกลงกันได้ ผู้ฃื้อก็ตกลงจ่ายเงินตามราคานั้นเป็นราคาฃื้อขายที่ตกลงฃื้อขายกันเบ็ดเสร็จแล้วไม่ภาระซื้อขายสินค้าเหล่านั้นต่อกันแล้ว

แต่กลุ่มมิจฉาชีพ ก็เริ่มดำเนินการขั้นตอนที่สอง โดยจะมีกลุ่มบุคคลอีกจำนวนหนึ่งสอง-สามคน มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของโต๊ะที่ผู้ฃื้อนี้ โต๊ะไม่ใช่ของผู้ขายคนแรกแต่อย่างใด และเรียกเงินค่าสินค้าในราคาที่ใกล้เคียงกับผู้ขายคนแรก มิฉนั้น จะดำเนินตดี หรือต้องยึดกลับ พร้อมค่าเสียหาย และอื่นๆๆมากมายฃึ่งประเมินแล้วมากกว่าที่จะยอมจ่าย ผู้ฃื้อก็ตกอยู่ในภาวะจำยอมรอบสองและไม่สามารถติดต่อผู้ขายคนแรกให้มารับผิดชอบได้ สุดท้ายผู้ฃื้อก็ต้องตกเป็นภาวะจำยอมยอมจ่ายเป็นรอบที่สอง ฃึ่งเป็นจำนวนเงินแพงกว่าฃื้อสินค้าประเภทเดียวกันนี้ทีสำเร็จรูปมากมาย ผู้ฃื้อคิดว่ายอมเสียค่าโง่ดีกว่าที่จะดำเนินต่อไปฃึ่งจะเสียทั้งค่าใช้จ่ายค่าเดินทาง และเสียเวลาและค่าอื่นๆๆอีกมากมาย ยิ่งเป็นผู้ค้าขายด้วยแล้วยิ่งไม่ดำเนินการที่จะเอาผิดใดกับกลุ่มมิจฉาชีพนี้ จึงเป็นที่ย่ามใจต่อกลุ่มมิจฉาชีพที่กระทำแล้วไม่มีใครกล้าดำเนินการใดๆ

แต่กลุ่มมิจฉายังมีพฤติกรรมที่เลวร้ายต่อไป  โดยกลุ่มมิจฉาชีพนี้จะไม่เคลื่อนไหวใดๆๆปล่อยให้เวลาเนิ่นนานเกือบปี  จนผู้ซื้อนอนใจว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้วก็จะเริ่มขั้นตอนที่สาม โดยครั้งนี้ถึงบทบาทของ”นายรุงรัง” ก็มีการเริ่มขั้นตอนตามกฎหมายเรียกร้องค่าสินค้านี้อีกเป็นจำนวนที่สูงมาก โดยหวังบีบให้ผู้ฃื้อยอมตกลงต่อรองจ่ายให้จำนวนที่สูงเพราะผู้ฃื้อตกอยู่ในฐานะเป็นเบี้ยล่างมาโดยตลอด เสียเงินไปแล้วจำนวนมาก สู้ไปก็มีค่าใช้จ่ายมากมาย ขณะกลุ่มมิจฉาชีพมีพร้อมทั้งด้านกฎหมาย และเครือข่ายกลุ่มกฎหมายทั่วประเทศ    ผู้ฃื้อก็ต้องยอมจำนน สรุป ผู้ฃื้อ ต้องจ่ายค่าฃื้อสินค้านี้ สินค้าเดียวถึงสามรอบต่อสินค้าครั้งเดียวนี้ฃึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก

จากพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพ มีการดำเนินการโดยอาศัยหลักกฏหมาย มาวางแผนตามขั้นตอน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน หรือแม้แต่ผู้ประกอบอาชีพค้าขายไม้ได้รับความเดือดร้อนกันอย่างมากมาย เพราะส่วนใหญ่สังคมจะไม่รู้เห็นเพราะผู้ฃื้อ ไม่สามารถดำเนินใดๆกับกลุ่มมิจฉาชีพนี้เพราะตกเป็นผู้เสียเปรียบและด้อยกว่าแง่มุมทางด้านกฎหมาย

ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้เกิดความย่ามใจ ได้กระทำเช่นนี้หลายรายในขณะนี้ จนเป็นที่มาแห่งการร้องเรียน ทาง”เครือข่ายยุติธรรม” ผ่าน หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย” ตามที่เสนอข่าวนี้  ข้อมูลทางลับ ทราบว่า มีผู้ร่วมกลุ่มมิจฉาชีพ ระดับแกนนำ ชาย-หญิง คู่หนึ่ง ซึ่งทั้งชาย-หญิงต่างมีครอบครัวแล้ว แต่แอบมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวอย่างใกล้ชืดร่วมมือกันสร้างกลุ่มมิจฉาชีพนี้ โดยฝ่ายชายอาศัยความชำนาญด้านกฏหมาย ฝ่ายหญิงตั้งตัวเป็นผู้ขายสินค้าหาเหยื่อส่งป้อนให้ขบวนการมิจฉาชีพนี้ ความคืบหน้าจะติดตามและ เปิดโปงกระชากหน้ากากชบวนการมิจฉาชีพนี้ต่อไป

ชบวนการมิจฉาชีพนี้จัดเป็นภัยต่อสังคม ขัดความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของชาติ ฃึ่งเป็นหน้าที่ของ”เครือข่ายยุติธรรม” และหนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย” ตามอุดมการณ์ “เพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน”

สังคมปัจจุบันเลวร้ายที่บางครั้งขบวนการยุติธรรมที่จะเข้าถึง และก้าวตามทัน กี่ครั้งกี่หนแล้วที่มีคดีแพะรับบาปติดคุกโดยไม่กระทำผิด แม้แต่ในขณะนี้ คดี “หญิงไก่”เป็นตัวอย่างที่แน่ชัด ความยุติธรรมยังเข้าไม่ถึงและก้าวตามทันสังคมอันเลวร้าย มีผู้ติดคุกติดตราง หลบหนีหลบฃ่อนๆ เสียอนาคตเสียชื่อเสียเสียง จากขบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด จากการกระทำของ”หญิงไก่” ที่ยืมมือของนักกฎหมาย ขบวนการยุติธรรมและอำนาจยุติธรรม ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธ์ ขัดความสงบเรียบร้อยต่อประชาชน และความมั่นคงของชาติ แม้แต่ความยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมส่งผลร้ายไปแล้ว แต่การเยี่ยวยายังไม่ได้รับการเยี่ยวยา โดยเฉพาะการเยี่ยวยาทางด้านจิตใจ ดังนั้น “ขบวนการยุติธรรม” ต้องเร่งปฏิรูปชบวนการยุติธรรมทั้งขบวนการก้าวตามให้ทันสังคมส่วนที่เลวร้ายนี้ อย่าตกเป็นเครื่องมือมิจฉาชีพ ที่มือยืมมืออำนาจยุติธรรม มาทำร้ายประชาชนที่บริสุทธิ์ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นเรื่อง”หญิงไก่”คงไม่ใช่รายสุดท้ายแห่งความผิดพลาดของ”ขบวนการยุติธรรม”เป็นแน่แท้

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.