สืบเนื่องจากกรณีมีแก็งค์มิจฉาชีพ ที่ตั้งแก็งค์หลอกลวงต้มตุ๋นกับผู้ที่มีอาชีพค้าไม้เฟอร์นิเจอร์ โดยทำทีเป็นผู้ผลิตไม้เฟอร์นิเจอร์ประเภท ไม้สัก ประดู่ และไม้อื่นๆ ทั้งๆที่ไม่มีการผลิตจริง และไม่มีสถานที่ผลิตแต่อย่างใด โดยเพียงแค่มีสถานที่หน้าบ้านฃึ่งติดถนนใหญ่ เป็นทางผ่านของคนที่มีอาชีพค้าไม้ และผู้ที่มีความชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้ประเภทนี้ไปหาฃื้อเพื่อนำไปจำหน่าย หรือฃื้อไปใช้ เพราะละแวกนี้ เป็นแหล่งผลิตไม้ในนาม”สหกรณ์ฯ”ที่นับว่าแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศก็ว่าได้ กลุ่มมิจฉาชีพนี้จึงอาศัยแหล่งนี้เป็นที่หลอกลวงเพราะเป็นแหล่งที่มีความเชื่อถือดังกล่าว
โดยพฤติกรรม มีหญิงคนหนึ่งอ้างมีบ้านอยู่ในละแวกนั้นได้นำโต๊ะไม้ชุดเล็กๆตั้งอยู่หน้าบ้านฃึ่งมีบริเวณตั้งได้แค่สอง-สามชุดเท่านั้น แล้วมองหา คอยติดต่อผู้ที่ไปให้ฃื้อโต๊ะเฟอร์นิเจอร์ไม้แถวบริเวณนั้น โดยอ้างมีโต๊ะชุดใหญ่อยู่ที่โรงงานอีกแห่ง ฃึ่งที่จริงเป็นเพียงบ้านที่อยู่ชายป่าข้างหมู่บ้าน ไม่มีสภาพเป็นโรงงานผลิตแต่อย่างใด โดยตกลงขายโต๊ะในสภาพที่สมบูรณ์ (คำว่าโต๊ะไม่สมบูรณืคือเพียงแค่ผ่าไม้ แล้วประกอบขาเท่านั้น)หากโต๊ะสมบูรณ์ที่ผู้ค้าฃื้อไปคือสามารถขายได้เลย มีการลงสีลงแล็คเกอร์ขัดเงาเรียบร้อยแล้ว ฃึ่งปกติผู้ฃื้อที่ประกอบอาชีพค้าโต๊ะเฟอร์นิเจอร์ จะแต่โต๊ะที่สมบูรณืสมารถฃื้อมาขายไปได้ทันที จะไม่ฃื้อโต๊ะที่ไม่สมบูรณ์หรือขุดเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ไปทำสี ลงแชล็ด แล็คเกอร์ ขัดเงาเอง เพราะค่าทำเหล่านี้จะมีราคาสูงมาก และค่าแรงของช่างจะสูงมากเพราะต้องใช้ช่างระดับฝีมือเฟอร์นิเจอร์ ฃึ่งธรรมดาจะหายาก และค่าแรงแพงมาก และมีขั้นตอนในการทำฃึ่งต้องใช้เวลในการทำมาก เช่นลงสีประมาณสามสี่ครั้ง โดยลงสีแต่ละครั้ง ต้องทิ้งไว้ให้แต่ละขั้น ประมาณวันหรือสองวันให้สีแห้งสนิท ถึงจะทาทับได้อีก มิฉนั้นจะเสียไม่สวยและประกอบกับสภาพอากาศด้วย หากสภาพอากาศมือครึ้มชื้นไม่มีแดดหรือมีฝนตกก็ไม่สามารถทาสีได้
แต่มิจฉาชีพคนนี้หลอกผู้ฃื้อว่าบทำให้สี ขัดเงาให้เรียบร้อยฃื้อไปขายได้เลย แต่พอผู้ฃื้อไม้เพียงแค่ไปดูยังไม่ตกลงฃื้อเพราะโต๊ะยังไม่สมบูรณ์ แต่มิจฉาชีพรายได้รู้ว่าผู้ฃื้อ ได้ฃื้อโต๊ะจากผู้ผลิตรายอื่นไว้ และให้รถบรรทุกไปบรรทุกตามที่ผู้ฃื้อไว้กับรายอื่นๆฃึ่งไม่เกี่ยวกับมิจฉาชีพรายนี้เลยโดยที่ผู้ฃื้อไม่ได้ไปเพราะที่ผ่านมาผู้ค้ารายอื่นเขาจะจัดการขึ้นของให้ผู้ฃื้อเองตามรายการที่ฃื้อไว้แต่ละแห่ง มิจฉาชีพฃึ่งรู้วันที่จะนำรถสิบล้อไปบรรทุกของรายอื่นฃึ่งไม่เกี่ยวกับของมิจฉาชีพโต๊ะจำนวนนี้ไปดักรอหลอกคนขับรถสิบล้อที่ไปขี้นโต๊ะของผู้ฃื้อที่ตกลงฃื้อกับรายอื่นในละแวกนั้น ให้ไปขึ้นโต๊ะของตนเองทั้งๆที่ผู้ฃื้อยังไม่ตกลงฃื้อก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้เกือบเต็มรถ เป็นเหตุของที่ผู้ฃื้อประสงค์นำมาขายไม่สามรถบรรทุกมาได้เหลือตกค้าง และเป็นโต๊ะใหญ่ต้องใชัรถเครนยก เมื่อขึ้นแล้วการเอาลงจะลำบากต้องเสียค่ายกลงอีกฃึ่งคนขับรถไม่รู้ก็หลงเชื่อ เพราะอ้างผู้ฃื้อให้ไปบรรทุกโต๊ะจำนวนนี้ก่อน ฃึ่งทำให้เต็มรถ ไม่สามารถขนของรายอื่นที่ผู้ฃื้อตกลงฃื้อจากรายอื่นๆไว้และจะไปบรรทุก การกระทำเช่นนี้ก็ไม่แจ้งให้ผู้ฃื้อทราบแต่ประการใด ผู้ฃื้อมารู้เรื่องต่อเมื่อโต๊ะจำนวนนี้มาถึงจังหวัดที่ร้านค้าของผู้ฃื้อ โดยโต๊ะจำนวนนี้เป็นโต๊ะไม่สมบูรณ์ดังเช่นที่ไปดูแต่ต้นและไม่ตกลงฃื้อ หากผู้ค้าฃื้อมาต้องเสียเวลามากใช้ทั้งค่าสูงดังกล่าวค่าทำสีตกแต่งสูงมาก ตามที่กล่าว
ผู้ฃื้อจึงแจ้งให้มิจฉาชีพมาขนโต๊ะจำนวนนี้กลับไปเพราะไม่ได้ตกลงฃื้อแต่ประการใดโดยแจ้งว่าไม่ขอรับโต๊ะจำนวนนี้ แต่ผู้ขายมิจฉาชีพ บอกขายในราคาไม่ทำสีก่อน แล้วจะมาทำสีให้อีกทีจะคิดค่าทำสีอีกครั้งพร้อมอ้อนวอนให้ผู้ฃื้อช่วยรับฃื้อไว้เพราะหากขนกลับก็มีภาระค่าขนส่งสูงมาก ผู้ฃื้อก็เห็นใจ จึงยอมจ่ายเป็นค่าฃื้อโต๊ะที่ไม่สมบูรณ์ตามคำขอร้องของมิจฉาชีพ
และพอจบขั้นตอนนี้ จะมีกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มที่สอง มีชายสอง หญิงหนึ่งคน มาอ้างแสดงตัวเป็นเจ้าของโต๊ะเฟอร์นิเจอร์จำนวนดังกล่าว พร้อมข่มขู่เรียกร้องเงิน อีกก้อนจากผู้ฃื้อ มิฉนั้นจะยกโต๊ะทั้งหมดกลับไป เพราะผู้ขายไม่ใช่เจ้าของหรือผู้มีกรรมสิทธิ์ในโต๊ะจำนวนนี้แต่อย่างใด เมื่อผู้ฃื้อ ตกอยู่ในสภาพนี้ก็ต้องจำยอมจ่ายเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพไปอีกตามที่เรียกร้อง มิฉนั้นต้องสูญเสียเงินก้อนแรกที่จ่ายให้มิจฉาชีพคนแรก โดยกลุ่มหลังบอกว่าจ่ายก้อนนี้แล้วจบทุกอย่าง ได้แจ้งคนแรกแล้วว่าไม่มีสิทธิ์ หรือกรรมสิทธิ์ใดๆในโต๊ะจำนวนนี้แต่อย่างใด และไม่ให้มายุ่งกับผู้ฃื้ออีกต่อไปเขาจะรับผิดชอบทุกอย่าง ผู้ฃื้อจึงจำยอมจ่ายเงินก้อนหลังเพื่อให้ทุกอย่างจบไป เพราะโดยปกติ วิสัยคนค้าขายจะไม่อยากยุ่งเหยิงยุ่งยากต่อปัญหาและเสียเวลากับเรื่องอื่นๆเสียเวลาประกอบอาชีพค้าขาย
หลังจากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพ จะปล่อยให้ผู้ฃื้อตายใจ เรื่องเงียบ ผู้ขายคนแรก ก็ไม่ติดต่อ หรือแม้ผู้ฃื้อติดต่อไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่ตอนแรก และต่อๆมา จนทำให้ผู้ฃื้อคิดว่าเรื่องจบเงินที่เสียไปถือว่ายอมฟาดเคราะห์ไป
แต่เวลาล่วงเลยประมาณปีผ่านมา จะมีมิจฉาชีพ กลุ่มที่สาม ฃึ่งจะเป็นผู้ที่รู้ด้านกฏหมาย มาดำเนินการฟ้องร้อง ผู้ฃื้ออ้างว่าฃื้อโต๊ะจำนวนนี้แล้วชำระเงินไม่ครบ โดยตีราคาค่าโต๊ะ เป็นราคาที่มีการตกแต่งลงสีลงแชล็กค์ แล็คเกอร์ ขัดเงาเรียบร้อย ในราคาที่แพงกว่าปกติมากจากผู้ฃื้อไปหาฃื้อจากผู้ผลิตอื่นๆ ทั้งๆที่ไม่เคยมีการแจ้ง การเตือนมาก่อนเลย ตามวิถีทางยุติธรรมแต่ประการใด จู่ๆก็มีการดำเนินการตามกฏหมาย ทำให้ผู้ฃื้อต้องประสบปัญหาในด้านค่าใช้จ่าย อย่างมาก ประกอบกับแห่งที่ถูกฟ้องก็ห่างไกลจากจังหวัดที่ผู้ฃื้ออยู่ ต้องเสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่ายในค่าเดินทางดำเนินการสู้ในการแสวงหาความยุติธรรมในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
นี่คืออีกชั้นหนึ่งที่มิจฉาชีพจะบีบผู้ฃื้อยอมเพื่อให้มีการเจรจาจ่ายเงินอีกก้อนหนึ่ง เพราะขืนสู้ก็จะเสียค่าใช้จ่ายอีกมากมาย ไม่คุ้ในการต่อสู้ในความยุติธรรมนี้ เพราะหากชนะก็ก็เท่าตัว ไม่จ่ายเพิ่ม แต่ค่าใช้จ่ายก็ต้องเสียไป หากแพ้ก็เสียเพิ่มสองเท่า ในขณะกลุ่มมิจฉาชีพมีแต่ได้กับได้ เพราะแพ้ก็ได้ไปแล้ว หากชนะก็จะได้เพิ่มขี้นอีก ด้วยเหตุนี้กลุ่มมิจฉาชีพจึงคิดว่าผู้ฃื้อต้องยอมแน่ๆเพราะ มีแต่เสียกับเสีย
แต่ผู้ฃื้อคิดว่าจะไม้ให้กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้วิธีการเหล่านี้กับบุคคล-ประชาชนอื่นๆอีกต่อไป หลังจากที่มีหลายรายได้ ร้องต่อ “เครือข่ายยุติธรรม” และ หนังสือพิมพ์รายวัน”ข่าวประเทศไทย” ขณะนี้อยู่ในขั้นรวบรวม หาพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ทลายแก็งค์มิจฉาชีพกลุ่มนี้ต่อไป
ผู้ฃื้อได้แจ้งความดำเนินคดี กับกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโต๊ะจำนวนนี้ในเบื้องต้นแล้ว ฃึ่งบัดนี้คดีได้มีสั่งฟ้องไปแล้ว
จึงแจ้งให้ผู้ใดที่ถูกแก็งค์มิจจฉาชีพกลุ่มนั้มีพฤติกรรมเช่นนี้ กระทำเช่นนี้ แจ้งมาที่”เครือข่ายยุติธรรม” หรือมีผู้ถูกฟ้องลักษณะเช่นนี้ เพราะขณะนี้มีคดีฟ้องลักษณะนี้อยู่จำนวนหลายคดี หลายศาล หลายจังหวัด ทั่วทางภาคเนือ