จากการที่ครอบครัว “น้องบีม” เด็กหญิงพิการอายุ 14 ปี ร้องทุกข์ว่า ถูกโกงเงินค่าเยียวยาจากอุบัติเหตุรถชนเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ซึ่งต่อมาสามารถจับกุมตัว นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความและ น.ส.ธิตาภา สวัสดี หรือ ภัทรวดี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในข้อหา ร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ร่วมกันยักยอกฉ้อโกงเงิน โดยจับกุมตัวได้ที่คอนโดมิเนี่ยมแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ก่อนนำตัว ส่ง สน.บางยี่ขัน เมื่อวานที่ผ่านมา โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น ได้ทำการสอบสวน พร้อมให้ ผู้เสียหายได้ทำการชี้ตัว จากการสอบสวน นายพิสิษฐ์ ได้ให้การรับสารภาพว่า เงินจำนวนหนึ่งถือเป็นส่วนของค่าทนายความ ส่วนที่เหลือมีการแบ่งให้ผู้ร่วมก่อเหตุ เนื่องจากมีปัญหาทางการเงิน
“พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ขจรศรีเพชร” รองผกก. สอบสวน สน.บางยี่ขัน เบิกตัวนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความและ น.ส.ธิตาภา สวัสดี หรือ ภัทรวดี ผู้ต้องหา ตามหมายจับออกจากห้องควบคุมเพื่อนำไปฝากขังที่ศาลตลิ่งชัน โดยตลอดทั้งคืนและช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่มีญาติของ นาย พิสิษฐ์ และ น.ส.ธิตาภา เข้าเยี่ยมและขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใด ทั้งคู่มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัดและไม่ยอมพูดคุยกับใคร
พ.ต.ท วีระศักดิ์ แจ้งว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาได้ทำการสอบปากคำ นายพิสิษฐ์ พบว่า นายพิสิษฐ์ มีการเครียด และร่ำไห้ ตลอดเวลาที่ทำการสอบสวน หลังจากทำการสอบสวนเสร็จ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปอยู่กับ นาย พิสิษฐ์ ภายในห้องขังด้วยเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
และช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ได้นำอาหารกล่องมาให้ทั้งคู่ได้รับประทาน เนื่องจากทาง 2 ผู้ต้องหาไม่มีญาติมาเยี่ยม ก่อนจะนำตัวส่งศาลตลิ่งชัน โดยขณะที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัว นาย พิสิษฐ์ ลงมาโดย นายพิสิษฐ์ สวมเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นลายสก๊อตฟ้า กางเกงบอลขาสั้นสีเหลือง รองเท้าหนังสีดำ โดยทั้งคู่ใช้ผ้าปิดบังใบหน้าและวิ่งขึ้นรถเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว และเมื่อนำตัวมาที่ศาลตลิ่งชัน ทั้งคู่ก็เปิดประตูและวิ่งลงจากรถเจ้าหน้าที่เพื่อไปที่ห้องส่งฟ้องอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบสื่อมวลชนที่คอยบันทึกภาพอยู่
โดยคำท้ายคำฟ้องของพนักงานสอบสวนได้ คัดค้านการประกันตัว สาเหตุเนื่องจาก เป็นคดีที่น่าสนใจของประชาชน และผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่หลบหนีตลอดเวลา
